นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Policy)
สมาคม ตระหนักถึงความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเป็น สําคัญในฐานะที่เป็นผู้ควบคุมดูแลข้อมูล ซึ่งมีการเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือ เปิดเผยข้อมูล เพื่อให้การดําเนินงานที่ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิก สมาคมและผู้ที่เกี่ยวข้อง มีความมั่นคง ปลอดภัย น่าเชื่อถือและสอดคล้องเป็นไป ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
คณะกรรมการดําเนินการ จึงได้ กําหนดนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
ข้อ 1. ประกาศฉบับนี้เรียกว่า “ประกาศ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Policy)”
ข้อ 2. ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป
ข้อ 3. บรรดาประกาศหรือมติอื่นใดที่กําหนดไว้ ซึ่งขัดหรือแย้งกับประกาศนี้ให้ใช้ประกาศนี้แทน
ข้อ 4. ขอบเขตการบังคับใช้นโยบาย
นโยบายนี้ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลซึ่งมีความสัมพันธ์กับ สมาคม ในปัจจุบันและที่อาจมีในอนาคต รวมถึงคู่สัญญาหรือบุคคลภายนอก ซึ่งถูกประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดย สมาคม และบริการต่าง ๆ เช่น ระบบการ ทํางาน ระบบออนไลน์ (Online) ระบบโมบายแอปพลิเคชัน (Mobile Application) เว็บไซต์ (Website) เอกสาร หรือ บริการในรูปแบบอื่น ๆ ที่ควบคุมดูแล โดย สมาคม
บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับ สมาคมตามความในวรรคแรก รวมถึง
1. บุคคลธรรมดา (สมาชิกสมาคม)
2. เจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงาน
3. คู่ค้าหรือคู่สัญญาซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล
4. กรรมการ ผู้รับมอบอํานาจ ผู้แทน ตัวแทน ผู้ถือหุ้น ลูกจ้าง หรือบุคคลอื่นที่มีความสัมพันธ์ในรูปแบบ เดียวกันของนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับ สมาคม
5. บุคคลอื่นที่ สมาคมเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น หนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ หนังสือผู้ค้ำ ประกันเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติงาน เป็นต้น
ข้อ 5. คํานิยาม
"ข้อมูลส่วนบุคคล"
หมายถึง
ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทําให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้น ได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของ ผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ กล่าวคือ ข้อมูลที่บุคคลทั่วไป รับทราบแล้วสามารถระบุตัวบุคคลได้ เช่น ชื่อ-นามสกุล / เลขบัตรประจําตัวประชาชน เป็นต้น
"เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล"
หมายถึง
บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
"ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว"
หมายถึง
ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็น ทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพหรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของ ข้อมูลส่วนบุคคลในทํานองเดียวกันตามที่คณะกรรมการ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกําหนด
"การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล"
หมายถึง
การดําเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เก็บรวบรวม บันทึก สําเนา จัดระเบียบ เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ใช้งาน กู้คืน เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน รวม ลบ ทําลาย เป็นต้น
"ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล"
หมายถึง
บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอํานาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับ การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
"ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล"
หมายถึง
บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดําเนินการเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคําสั่งหรือ ในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อ 6. วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล สมาคม จะเก็บ รวบรวม ใช้และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
6.1 รายละเอียดเกี่ยวกับตัวสมาชิก เช่น เลขทะเบียนสมาชิก ชื่อ นามสกุล วัน เดือน ปีเกิด สถานภาพ สมาชิก อายุการเป็นสมาชิกสมาคม สังกัดหน่วยงาน เป็นต้น
6.2 รายละเอียดเกี่ยวกับการระบุและยืนยันตัวตน เช่น หมายเลขประจําตัวประชาชน หมายเลข ประจําตัวพนักงาน หมายเลขบัญชีสมาคม ภาพถ่าย เป็นต้น
6.3 รายละเอียดสําหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน และ/หรือที่อยู่ปัจจุบันที่สามารถติดต่อได้ หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ตามจดหมายอิเล็คทรอนิกส์ (E-mail) เป็นต้น
6.4 รายละเอียดในเอกสารต่าง ๆ ที่สมาชิกยินยอมมอบให้แก่สมาคม เช่น คําขอใบสมัครสมาชิก หนังสือเปิดบัญชีสมาคม หนังสือแต่งตั้งผู้รับผลประโยชน์ หนังสือสัญญาเงินกู้ หนังสือยินยอม หนังสือคําร้องต่าง ๆ เป็นต้น
6.5 รายละเอียดทางการเงิน เช่น การถือหุ้นสมาชิก สถานะทางการเงิน การกู้ยืมเงินจากสมาคม การชําระเงินกู้ของสมาชิก เงินได้รายเดือน รายละเอียดบัญชีเงินฝากสมาคม/สมาคม สวัสดิการที่สมาชิกพึงได้รับจาก สมาคม เป็นต้น
6.6 ผลการตรวจสอบของ สมาคม รายละเอียดเกี่ยวกับสมาชิกในเรื่องความน่าเชื่อถือเครดิตบูโร (NCB) สัญญาเช่าซื้อ สัญญาเงินกู้ หรือประวัติทางการเงิน เป็นต้น
6.7 ข้อมูลสมาชิกเกี่ยวกับการใช้ตู้เอทีเอ็ม ปรับสมุดอัตโนมัติ ข้อมูลจากกล้องวงจรปิดภายในสํานักงาน ข้อมูลการเข้าใช้เว็บไซต์ เว็บออนไลน์ เว็บแอปพลิเคชัน หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ของ สมาคม เป็นต้น
6.8 ข้อมูลอื่น ๆ ที่สมาชิกได้ให้ไว้กับ สมาคม
ข้อ 7. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลภายนอก
สมาคมจะจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกไว้เป็นความลับ และอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่ จําเป็นให้แก่หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกภายใต้การกระทําภายในกรอบที่กฎหมายให้อํานาจไว้ ดังต่อไปนี้
7.1 สมาคม จะนําข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้เพื่อประโยชน์แห่งการทําธุรกรรมของสมาชิกเท่านั้น
7.2 หน่วยงานราชการ หรือบุคคลหรือนิติบุคคลที่มีอํานาจตามกฎหมายในการกํากับดูแลสมาคม เช่น กรมส่งเสริมสมาคม กรมตรวจบัญชีสมาคม ผู้สอบบัญชีสมาคม ผู้ตรวจสอบกิจการ สํานักงานป้องกันและปราบปราม การฟอกเงิน คําสั่งศาล และ/หรือหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง
7.3 หน่วยงานต้นสังกัดสมาชิกที่ทําหน้าที่ในการหักเงินได้ทุกประเภทของสมาชิกเพื่อชําระค่าหุ้น หนี้ หรือรายการอื่น ๆ นําส่งต่อ สมาคม
7.4 สมาคมพาณิชย์ที่ สมาคม ทําธุรกรรมหรือคู่ค้า ในการให้บริการด้านต่าง ๆ แก่สมาชิก
7.5 บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จํากัด (เครดิตบูโร)
7.6 สํานักงานที่ดินที่เกี่ยวข้องกับหลักประกันเงินกู้ของสมาชิก
7.7 สํานักงานกฎหมายที่ได้รับมอบอํานาจจากสมาคมเพื่อทําหน้าที่ในการฟ้องร้องดําเนินคดี
7.8 หน่วยงานอื่น ๆ ที่สมาชิกร้องขอให้ สมาคม ออกหนังสือรับรองเพื่อใช้ในการทําธุรกรรมต่าง ๆ ข้อ 8. การรักษาความปลอดภัย
ข้อ 8. การรักษาความปลอดภัย
8.1 สมาคม กําหนดให้มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม ในการเข้าถึงข้อมูล เพื่อป้องกันการ ใช้ แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอํานาจโดยมิชอบ โดยมีมาตรการได้แก่ การเข้ารหัสทุกครั้ง จํากัดการเข้าถึงข้อมูลของเจ้าหน้าที่ ความปลอดภัยทางกายภาพที่เหมาะสม ผู้ไม่เกี่ยวข้องไม่สามารถเข้าถึงเครื่องแม่ข่าย (SERVER) ของ สมาคม
8.2 สร้างจิตสํานึกให้กับเจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงานในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
8.3 มีระบบป้องกันการเข้าถึงข้อมูล (Firewall) ของสมาชิกจากผู้บุกรุกภายนอก
ข้อ 9. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูล
สมาคม จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกตามที่กําหนดไว้ใน กฎหมาย พระราชบัญญัติสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ คําสั่งระเบียบหรือประกาศของกรมส่งเสริมสมาคม กรมตรวจบัญชีสมาคม หรือข้อตกลงและ เงื่อนไขการให้ความยินยอมของหนังสือสัญญาประเภทนั้น ๆ พร้อมดําเนินการลบ การทําลายข้อมูลหรือเอกสารเมื่อพ้น ระยะเวลาการเก็บรักษาที่กําหนดในระเบียบหรือประกาศนั้น ๆ
สมาคม ให้คํามั่นว่า สมาคม จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกไว้ในสถานที่ที่ปลอดภัย และจะทําลาย ข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกทันทีที่ระยะเวลาการเก็บรักษาได้ผ่านพ้นกําหนดไปแล้ว
ข้อ 10. การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูล/สิทธิของสมาชิก
10.1 สมาชิก สมาคมสามารถยื่นคําร้องขอเข้าถึงข้อมูล ขอแก้ไขปรับปรุงข้อมูล ยกเลิกข้อมูล ให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงในปัจจุบัน รวบถึงลบข้อมูล ระงับการใช้ข้อมูลหรือโอนย้ายข้อมูลนั้นได้ด้วยเหตุบางประการ ตามที่กฎหมายกําหนดได้
10.2 ผู้สืบสิทธิ ทายาท ผู้แทนโดยชอบ หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย สามารถร้องขอรับคําชี้แจงหรือ ข้อมูลตามคําร้องขอได้
10.3 กรณี สมาคม ปฏิเสธคําร้องขอของเจ้าของข้อมูลหรือผู้มีสิทธิโดยชอบธรรมตามกฎหมาย จะมี คําชี้แจงให้ผู้ร้องขอรับทราบทุกครั้ง
ข้อ 11. การปรับปรุงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
11.1 สมาคม อาจจะทําการปรับปรุงแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยจะแจ้งให้สมาชิกทราบโดยเร็วที่สุดในเว็บไซต์ (Website) ระบบออนไลน์ (Online) ระบบโมบายแอปพลิเคชัน (Mobile Application) หรือช่องทางอื่น ๆ ตามความเหมาะสม โดยจะแจ้งวัตถุประสงค์ของการปรับปรุงแก้ไขให้ทราบ อย่างชัดเจน
11.2 สมาชิกที่สมัครเข้าใช้บริการธุรกรรมต่าง ๆ ของ สมาคม ภายหลังจากมีการประกาศนโยบายฉบับ นี้ จะต้องยินยอมและรับทราบตามข้อตกลงของประกาศนี้ สมาคม ขอสงวนสิทธิมิให้สมาชิกใช้บริการในกรณีที่สมาชิกไม่ ยอมรับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประกาศฉบับนี้
ข้อ 12. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลมีอะไรบ้าง
12.1 สิทธิขอถอนความยินยอม : หากท่านได้ให้ความยินยอมให้สมาคมเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับสมาคม เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ โดยการถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้กระทำขึ้นก่อนการถอนความยินยอม
ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านในส่วนที่เกี่ยวข้องและจำเป็นกับการขอรับบริการ อาจส่งผลให้สมาคมไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาหรือให้บริการกับท่านได้ หรืออาจส่งผลให้ธุรกรรมหรือกิจกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องถูกระงับ หรือหยุดลงชั่วคราว หรืออาจส่งผลกระทบต่อท่านในการรับทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการต่าง ๆ เช่น ท่านจะไม่ได้รับข้อเสนอผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการ สิทธิประโยชน์ โปรโมชั่นหรือข้อเสนอใหม่ ๆ ไม่ได้รับผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการที่ถูกใจมากยิ่งขึ้นและสอดคล้องหรือตรงตามความต้องการของท่าน หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสาร คำแนะนำอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนถอนความยินยอม
12.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของสมาคม และขอให้สมาคมทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้สมาคมเปิดเผยว่าสมาคมได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร
12.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่สมาคมได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้สมาคมส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่สมาคมส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่สมาคมในการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่สมาคมจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยเพื่อให้ท่านสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการของสมาคมได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับสมาคม หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการของสมาคม หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด
12.4 สิทธิขอคัดค้าน : ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของสมาคม หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน สมาคมจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่สมาคมสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่า หรือเป็นไปเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี
นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติได้อีกด้วย
12.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าสมาคมหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
12.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราว ในกรณีที่สมาคมอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอใช้สิทธิคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่สมาคมหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ท่านขอให้สมาคมระงับการใช้แทน
12.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
12.8 สิทธิร้องเรียน : ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่สมาคมอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากสมาคมปฏิเสธคำขอข้างต้น สมาคมจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย
ทั้งนี้ ท่านสามารถดำเนินการขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
สิทธิ ช่องทางการขอใช้สิทธิ ระยะเวลาดำเนินการ
(นับตั้งแต่ท่านได้ยื่นคำขอและเอกสารครบถ้วน)
สาขา
สิทธิขอถอนความยินยอม 30 วัน
สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล
สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล
สิทธิขอคัดค้าน
สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล
สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล
สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล
นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลสําหรับผู้ใช้บริการเว็บไซต์ (Cookies Policy)
นโยบายคุกกี้
เมื่อท่านได้เข้าสู่เว็บไซต์ของสมาคม ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเข้าสู่เว็บไซต์ของท่านจะถูกบันทึกไว้ในรูปแบบของคุกกี้ (Cookies) โดยนโยบายคุกกี้นี้จะอธิบาย ถึงความหมาย การทํางาน วัตถุประสงค์ รวมถึงการลบและการปฏิเสธการเก็บคุกกี้ เพื่อความเป็นส่วนตัวของท่าน โดยการเข้าสู่เว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้สมาคม ใช้คุกกี้ตามนโยบายคุกกี้ที่มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
คุกกี้คืออะไร
คุกกี้ คือ ไฟล์เล็ก ๆ เพื่อจัดเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานเว็บไซต์ เช่น วันเวลา ลิงค์ที่คลิก หน้าที่เข้าชม เงื่อนไขการตั้งค่าต่าง ๆ โดยจะบันทึกลงไปในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และ/หรือ เครื่องมือสื่อสารที่เข้าใช้งานของ ท่าน เช่น โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ในขณะที่ท่านเข้าสู่เว็บไซต์ โดยคุกกี้ จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และ/หรือ เครื่องมือสื่อสารของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้ ข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านอาจถูกจัดเก็บเพื่อใช้ปรับปรุงหรือเพิ่มประสบการณ์การใช้งานบริการทางออนไลน์ โดยจะ จําเอกลักษณ์ของภาษาและปรับแต่งข้อมูลการใช้งานตามความต้องการของท่านเป็นการยืนยันคุณลักษณะ เฉพาะตัว ข้อมูลความปลอดภัยของท่าน รวมถึงบริการที่ท่านสนใจ นอกจากนี้คุกกี้ยังถูกใช้เพื่อวัดปริมาณการเข้า ใช้งานบริการทางออนไลน์การปรับเปลี่ยนเนื้อหาตามการใช้งานของท่านโดยพิจารณาจากพฤติกรรมการเข้าใช้ งานครั้งก่อน ๆ และ ณ ปัจจุบัน และอาจมีวัตถุประสงค์เพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์งานหรือกิจกรรมของ PI สมาคม
วัตถุประสงค์ในการใช้คุกกี้
สมาคม จะใช้คุกกี้ เพื่อบันทึกการเข้าเยี่ยมชมและสมัครเข้าใช้งานเว็บไซต์ระบบของท่าน โดยทําให้ สามารถจดจําการใช้งานเว็บไซต์ของท่านได้ง่ายขึ้น และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนําไปเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของ สมาคม ให้มีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเพื่ออํานวยความสะดวกให้เกิดความ รวดเร็วในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน และในบางกรณี สมาคม จําเป็นต้องให้บุคคลที่สามช่วยดําเนินการดังกล่าว ซึ่งอาจจะต้องใช้อินเตอร์เน็ตโปรโตคอลแอดเดรส (IP Address) และคุกกี้เพื่อวิเคราะห์ทางสถิติ ตลอดจน เชื่อมโยงข้อมูล และประมวลผลตามวัตถุประสงค์ของ สมาคม
การจัดการคุกกี้โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
โดยทั่วไปบราวเซอร์จะมีการตั้งค่าให้มีการยอมรับคุกกี้เป็นค่าเริ่มต้น อย่างไรก็ตาม ท่านสามารถปฏิเสธ การใช้งานหรือลบคุกกี้ในหน้าการตั้งค่าของบราวเซอร์ที่ท่านใช้งานอยู่ ทั้งนี้ หากท่านทําการปรับเปลี่ยนการตั้งค่า บราวเซอร์ของท่านอาจส่งผลกระทบต่อรูปแบบและการใช้งานบนหน้าเว็บไซต์ของ สมาคม ได้
การเชื่อมโยงข้อมูลกับเว็บไซต์อื่น
เว็บไซต์ของ สมาคม อาจมีการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของบุคคลภายนอก รวมถึงอาจมี การฝังเนื้อหาหรือวีดีโอที่มาจากโซเชียลมีเดีย เช่น YouTube หรือ Facebook เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ท่านเข้าถึง เนื้อหาและสร้างการปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นบนโซเชียลมีเดียจากเว็บไซต์ของ สมาคมได้ ซึ่งเว็บไซต์หรือโซเชียล มีเดียของบุคคลภายนอกจะมีการกําหนดและตั้งค่าคุกกี้ขึ้นมาเอง โดยที่ สมาคม ไม่สามารถควบคุมหรือรับผิดชอบ ต่อคุกกี้เหล่านั้นได้ และขอแนะนําให้ท่านควรเข้าไปอ่านและศึกษานโยบายหรือประกาศการใช้คุกกี้ของ บุคคลภายนอกเหล่านั้นด้วย
การเปลี่ยนแปลงประกาศ
ประกาศนี้อาจมีการแก้ไขเพิ่มเติมหรือปรับปรุงให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์และตามการ ให้บริการต่อไปภายหน้า โดย สมาคม จะมีการแจ้งประกาศนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการปรับปรุงใหม่บน เว็บไซต์นี้ ดังนั้น สมาคม ขอแนะนําให้ท่านตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านได้เข้าใจการเปลี่ยนแปลงตามข้อกําหนด ดังกล่าว
รายละเอียดในการติดต่อสมาคม
กรณีที่ท่านมีข้อสงสัย ข้อคิดเห็น และ/หรือคําถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ โปรคติดต่อ สมาคม
นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลสําหรับกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)
นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลสําหรับกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับการที่ สมาคม ใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) เพื่อเฝ้าดูแล ภายในและรอบสถานที่ อาคาร สิ่งอํานวยความสะดวกอื่นๆ เพื่อคุ้มครองชีวิต สุขภาพร่างกาย และทรัพย์สินของ ท่าน สมาคมจะดําเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียง กรรมการ เจ้าหน้าที่ ผู้รับจ้าง คนงาน ผู้มาเยือน ลูกค้า หรือบุคคลใด ๆ (ซึ่งเรียกรวมกันว่า “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” ที่เข้าถึงพื้นที่ของ สมาคม ที่มีการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดภายในอาคารและสถานที่ภายนอกอาคารของ สมาคม จึงได้กําหนดนโยบาย การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
ข้อ 1. ประกาศฉบับนี้เรียกว่า “ประกาศจากสมาคม เรื่อง นโยบายข้อมูล ส่วนบุคคลสําหรับกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)”
ข้อ 2. ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เป็นต้นไป
ข้อ 3. บรรดาประกาศหรือมติอื่นใดที่กําหนดไว้ ซึ่งขัดหรือแย้งกับประกาศนี้ให้ใช้ประกาศนี้แทน ประกาศฯ ฉบับนี้จะอธิบายเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูล ซึ่งข้อมูลที่สามารถระบุตัวตน ของท่านได้ (“ข้อมูลส่วนบุคคล”)
สมาคม ขอสงวนสิทธิในการแก้ไขเพิ่มเติมหรือปรับปรุงประกาศฯ ฉบับนี้ได้ทุกเมื่อโดยใช้ดุลยพินิจของ สมาคม แต่เพียงผู้เดียวในการทบทวน เปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติม ลบ และปรับปรุงประกาศฯ ฉบับนี้ สมาคม จะใช้ ความพยายามตามสมควรในการแจ้งให้ท่านทราบด้วยวิธีการที่เหมาะสมหากมีการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้
ข้อ 4. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
สมาคม เก็บรวบรวมภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวของท่าน รูปภาพ และ/หรือเสียงซึ่งอาจรวมถึงข้อมูล ที่เกี่ยวกับทรัพย์สินของท่าน เช่น หมายเลขทะเบียนยานพาหนะของท่าน หรือแหล่งข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ ตามที่เห็นได้จากภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวที่ปรากฏจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเมื่อมีการเข้าถึงพื้นที่ที่มีการติดตั้ง กล้องโทรทัศน์วงจรปิดภายในอาคารและสถานที่ภายนอกอาคารของ สมาคม
ข้อ 5. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
5.1 สมาคม จะไม่เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย โอน และดําเนินการใดๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จํากัดเฉพาะการ บันทึก ถือครอง ปรับเปลี่ยน คัดแปลง แก้ไข ทําลาย ลบ กู้คืน รวมทําสําเนา ส่ง เก็บรักษา แยก เปลี่ยน หรือเพิ่มกับ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อจุดประสงค์ด้านล่างนี้ (“วัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด” โดย ไม่ได้รับการยินยอมจากท่าน ยกเว้นกรณีดังต่อไปนี้
(1) เพื่อประโยชน์ต่อชีวิต อันเป็นเรื่องจําเป็นต่อการขัดขวาง ป้องกัน และ/หรือ ระงับอันตราย ต่อชีวิต ร่างกาย และสุขภาพของบุคคล เช่น เพื่อปกป้องสุขภาพและความปลอดภัย รวมถึงทรัพย์สินของท่าน หรือ ของบุคลากรของ สมาคม
(2) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ สมาคม ได้แก่
(2.1) ในการคุ้มครองสุขภาพและความปลอดภัยของท่าน รวมถึงทรัพย์สินของของท่าน อาคาร สถานที่ และทรัพย์สินของ สมาคม จากความเสียหาย ความขัดข้อง การทําลายทรัพย์สิน และอาชญากรรม อื่นๆ
(2.2) เพื่อช่วยเหลือแก้ไขข้อพิพาทที่เกิดขึ้นในกระบวนการทางวินัยหรือกระบวนการยุติเรื่อง ร้องทุกข์อย่างมีประสิทธิภาพ
(2.3) เพื่อช่วยเหลือในการสอบสวนและกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งเบาะแส
(2.4) เพื่อช่วยเหลือในการเริ่มต่อสู้คดีซึ่งรวมถึงแต่ไม่จํากัดเฉพาะคดีแพ่งคดีอาญาและหรือ คดีแรงงาน และ
(2.5) เพื่อการกระทําการอื่นใดให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจร ปิด (CCTV)
สมาคมจะยังคงพยายามสร้างสมดุลระหว่างประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายและประโยชน์ ของท่านหรือบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณี รวมถึงสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของท่านในการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน นอกจากนี้สมาคมจะยังใช้ความพยายามในการหาขั้นตอนวิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่งความ สมดุลดังกล่าว
(3) เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย อันเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบันหรือที่จะ มีการต่อไปภายหน้าการให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐ และ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ซึ่ง รวมถึงแต่ไม่จํากัดเฉพาะ กฎหมายอาญา กฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมในที่ทํางาน สมาคม ถือว่า การใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิดเป็นมาตรการที่จําเป็นที่จะทําให้ สมาคม สามารถปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวได้ เช่น เพื่อ สนับสนุนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการขัดขวาง ป้องกัน และตรวจจับอาชญากรรม รวมถึงการฟ้องร้องเมื่อ เกิดอาชญากรรม
5.2 สมาคม จะติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในที่ที่สังเกตเห็นได้ง่าย
5.3 กล้องโทรทัศน์วงจรปิดทํางานตลอด 24 ชั่วโมง 365 วันต่อปี และจะมีการบันทึกภาพทั้งแบบมี เสียงและไม่มีเสียง
ข้อ 6. การเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
6.1 สมาคม จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับ และจะไม่เปิดเผยหรือโอนข้อมูล ดังกล่าวแก่ผู้ใด ยกเว้นบุคคลที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยชอบด้วยกฎหมายหรือผู้ได้รับสิทธิ เพื่อให้ เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่ระบุในประกาศฯ ฉบับนี้
6.2 สมาคม อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในประกาศฯ ฉบับนี้ บุคคลที่ สมาคม อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านรวมถึงแต่ไม่จํากัดเฉพาะ
(1) หน่วยงานรัฐ และ/หรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย สมาคม อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อสนับสนุนหรือช่วยเหลือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายใน การสอบสวนหรือฟ้องร้องในคดีแพ่งหรือคดีอาญาหรือคดีปกครอง
(2) บุคคลภายนอก สมาคมอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อดําเนินการตาม ขั้นตอนที่จําเป็นในการปกป้องชีวิต สุขภาพและความปลอดภัย รวมถึงทรัพย์สินของท่าน หรือบุคคลอื่น
ข้อ 7. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
7.1 สมาคม อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ให้บริการจากภายนอกที่ตั้งอยู่นอก ประเทศไทย เพื่อดําเนินการตามขั้นตอนที่จําเป็นในการปกป้องชีวิต สุขภาพร่างกาย และ/หรือทรัพย์สินของท่าน การเปิดเผยหรือการโอนข้อมูลดังกล่าวจะกระทําได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านเท่านั้น ยกเว้นกรณีที่มีฐาน ทางกฎหมายที่สําคัญอื่นๆ (เช่น เพื่อปฏิบัติตามข้อกําหนดทางสัญญาระหว่าง สมาคม และบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ ของท่าน) ตามที่กฎหมายที่บังคับใช้อนุญาต
7.2 ถ้าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกโอนไปยังประเทศปลายทางที่มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลไม่เพียงพอตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลของประเทศไทยกําหนด สมาคม จะดําเนินการตามขั้นตอนที่ จําเป็นในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่โอนไปยังบุคคลอื่นในต่างประเทศ เพื่อให้ข้อมูลนั้นได้รับการคุ้มครอง ในระดับเดียวกับที่ สมาคมคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่บังคับใช้อยู่ในขณะนั้น
ข้อ 8. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
8.1 สมาคม ใช้มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเชิงกายภาพทางเทคนิค และการบริหารจัดการ เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจากความเสียหาย ความสูญเสีย การทําลาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง และ การเปิดเผยโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือโดยปราศจากอํานาจ
8.2 สมาคม จะทําการตรวจสอบและปรับปรุงมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของสมาคม เป็น ครั้งคราวตามที่จําเป็นหรือเมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้แน่ใจว่ามาตรการรักษาความมั่นคง ปลอดภัย มีประสิทธิภาพและเหมาะสม และเป็นไปตามข้อกําหนดขั้นต่ําของกฎหมายตามที่หน่วยงานรัฐที่ เกี่ยวข้องประกาศกําหนด
ข้อ 9. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
สมาคม จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จําเป็นต่อการดําเนินการตามหน้าที่ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่ระบุในประกาศฯ ฉบับนี้ ในกรณีที่มีการดําเนินการ ทางศาลหรือทางวินัย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเก็บไว้จนกว่าจะสิ้นสุดการดําเนินการดังกล่าว ซึ่งรวมถึง ระยะเวลาที่เป็นไปได้ในการยื่นอุทธรณ์ฎีกาด้วย หลังจากนั้นข้อมูลจะถูกลบหรือเก็บถาวรตามที่กฎหมายที่บังคับใช้ อนุญาต
ข้อ 10. สิทธิทางกฎหมายในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ในบางกรณี สมาคม อาจขอให้ท่านยืนยันตัวตนของท่านก่อนดําเนินการตามคําขอใช้สิทธิของ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของท่านภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ใช้ บังคับ ท่านอาจมีสิทธิตามที่ระบุไว้ดังนี้
(1) สิทธิในการเข้าถึง ท่านอาจมีสิทธิในการขอเข้าถึงหรือขอรับสําเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่ สมาคม เก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยเกี่ยวกับท่าน ทั้งนี้ เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของท่าน สมาคม อาจขอให้ ท่านพิสูจน์ตัวตนก่อนจะให้ข้อมูลตามที่ท่านขอ
(2) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจมีสิทธิขอให้มีการดําเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่านที่ สมาคม ได้เก็บรวบรวม ใช้ เก็บรักษา เปิดเผย และโอนไปยังต่างประเทศให้ ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
(3) สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ สมาคม มีเกี่ยวกับท่าน ในรูปแบบที่มีการจัดระเบียบแล้วและสามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าว ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น โดยต้องเป็น (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้กับ สมาคม และ (ข) กรณีที่ สมาคม ได้รับความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ สมาคม มีกับ ท่าน
(4) สิทธิในการคัดค้านการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลในบางรายการ
(5) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านในบางกรณี
(6) สิทธิในการถอนความยินยอม กรณีที่ท่านเคยให้ความยินยอมไว้แก่ สมาคม ท่านมีสิทธิจะขอถอน ความยินยอมดังกล่าวได้ สําหรับวัตถุประสงค์ที่ท่านได้เคยให้ความยินยอมให้ สมาคม เก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(7) สิทธิในการลบหรือทําลายข้อมูล ท่านอาจมีสิทธิขอให้ สมาคมดําเนินการลบหรือทําลาย หรือทําให้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของ ข้อมูล เว้นเสียแต่ว่า การเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวของ สมาคม นั้นเป็นไปเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อก่อตั้ง สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือ เพื่อการใช้ หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
(8) สิทธิในการยื่นเรื่องร้องเรียน ท่านอาจมีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่มีอํานาจในกรณี ที่ท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ สมาคม นั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ
ข้อ 11. รายละเอียดในการติดต่อสมาคม
หากท่านต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่ระบุด้านบน หรือกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย ข้อคิดเห็น และ/หรือคําถาม เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ โปรดติดต่อ สมาคม
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
เอกสาร ดาวน์โหลด
แบบขอเพิกถอนความยินยอม
แบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล